กลายเป็นข่าวฉาวเกี่ยวกับระบบการศึกษาของประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อมีการเปิดเผยข่าวจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต หลังมีพ่อแม่ของเด็กชายเอ (นามสมมุติ) อายุ 7 ขวบ ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่สอง ของโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ได้ไปร้องทุกพร้อมนำเอกสารใบแจ้งความบันทึกประจำวันของสภ.ถลาง ใบรับรองแพทย์ และภาพถ่าย เดินทางเข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมกรณีบุตรชาย หลังถูกครูพละ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่บุตรชายศึกษาอยู่ ทำร้ายร่างกาย โดยการใช้เท้าถีบลงสระน้ำ ทำให้ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกจากการกระแทกเย็บ 3 เข็ม และ อีกกรณีเป็นเรื่องที่ครูประจำชั้นของโรงเรียนเดียวกัน ได้ขว้างปาหนังสือและกระเป๋า และใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมส่งผลให้บุตรชายเกิดความหวาดกลัวไม่กล้าไป
โดยที่ผู้ปกครองของเด็กได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 59 ที่ผ่านมา โดยที่ลูกชายของตนเองได้ถูกครูพละที่โรงเรียน ใช้เท้าถีบจนล้มหัวไปฟาดขอบสระจนแตกต้องเย็บถึงสามเข็ม โดยที่มีครูประจำชั้นยืนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลังจากนั้นโรงเรียนได้โทรมาตามพ่อเด็กไปดู ซึ่งในตอนแรกทางผู้ปกครองไม่ได้เอาเรื่องอะไร แค่เพียงขอย้ายห้องจากที่ครูประจำชั้นคนเก่าอยู่ เนื่องจากเด็กได้เล่าให้พ่อแม่ฟังว่า ถูกครูประจำชั้นขว้างหนังสือ กระเป๋า และใช้ถ้อยคำรุนแรงว่าถ้าไม่อยากมาเรียนก็ให้กลับบ้านไป แต่พอนำลูกไปโรงเรียนอีกครั้งกลับไม่ได้ย้ายห้อง ทำให้เด็กที่หวาดกลัวครูไม่ยอมไปเรียน จึงได้เดินทางไปแจ้งความและมาแจ้งข้อมูลที่ศูนย์ร้องทุกข์ โดยที่ผู้ปกครองเด็กยังได้เล่าอีกว่า ได้สอบถามครูที่ก่อเหตุถีบเด็กซึ่งได้ยอมรับว่าทำลงไปเพราะมีปัญหากับที่ บ้านเลยอารมณ์เสีย เลยทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
Source: hayvui.org