อดีตลูกศิษย์หนุ่ม บุกใช้มีดจี้คอ ข่มขืนครูสาวใหญ่บ้านใกล้กัน พร้อมถ่ายรูปขู่ อ้าง ไม่มีสติ เมาเหล้า-ยาบ้า ผู้เสียหายเป็นครูสมัย ม.1 ด้านครูเผย ไม่ต้องการให้เรื่องเงียบ กลัวศิษย์เนรคุณจะย่ามใจ หวั่นลูกสาวไม่ปลอดภัย
นางปุ๋ย เล่าเหตุการณ์ว่า หัวค่ำที่ผ่านมามีลูกศิษย์ผู้หญิงประมาณ 10 คน มาขอจัดงานวันเกิดที่บ้าน และเลิกประมาณ 22.00 น. จากนั้นปิดประตูบ้านนอนโดยให้ลูกสาวอายุ 10 ปี นอนอยู่ในห้องแต่เปิดประตูไว้ โดยตัวเองนอนอยู่ที่โซฟาในห้องโถง ส่วนสามีไปทำงานที่ กทม. ต่อมาเวลา 03.30 น. ขณะที่นอนหลับมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาอยู่ที่ลำคอ จึงลืมตาขึ้นเห็นชายคนร้ายสวมหมวกแก๊ป และผ้าปิดบังใบหน้าใช้มือขวาปิดปากไม่ให้ส่งเสียง มือซ้ายใช้มีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต จ่ออยู่ที่คอ จึงตั้งสติพูดขึ้นว่าต้องการอะไร อย่าฆ่ากันเลย ชายคนร้ายพูดว่า “ข่อย ไม่ได้มาปล้นจี้ จะมาขอร่วมเพศ ถ้ายอมข่อยจะไม่ทำร้าย ไม่ฆ่าเจ้า ตั้งใจจะมาข่มขืนอย่างเดียว ไม่งั้นจะฆ่าเจ้า และจะไปข่มขืนลูกสาวเจ้าในห้องแทน”
จากนั้น นางปุ๋ย เล่าต่อว่า จึงพยายามควบคุมสติตัดสินใจถามว่าถ้าให้แล้วต้องสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรลูกสาว ก่อนที่คนร้ายจะลงมือกระทำชำเรา โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนใช้แท็บเล็ตถ่ายภาพพร้อมขู่ว่าหากแจ้งความหรือบอกใคร จะนำภาพลงในโซเชียลให้อับอาย อีกทั้งขโมยเงินไป 400 บาท แล้วหลบหนีไป จึงรีบตามไปปิดประตูแล้วโทรศัพท์หาพี่สาวคนสนิทซึ่งมีสามีเป็น ประธาน กต.ตร. ช่วยประสานแจ้งตำรวจ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมายังที่เกิดเหตุ รับแจ้งข้อมูลและสงสัยว่าคนร้ายจะเป็น นายสัตยา ภูสง่า อายุ 24 ปี ซึ่งมีบ้านห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่จึงไปตามตัวถึงบ้าน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เมื่อคืนเมาสุราและเสพยาบ้าครึ่งเม็ด จึงไม่มีสติ ทั้งๆ ที่รู้ว่าผู้หญิงที่ข่มขืนเคยเป็นครูสมัยเรียน ม.1 และเคยถูกจับคดีเสพยาเสพติดปี 56 ปัจจุบันมีอาชีพซ่อมรถจักรยานยนต์มือสองไว้ขาย ส่วนภรรยาตั้งครรภ์ และเคยเป็นลูกศิษย์เช่นกัน
ทั้งนี้ นางปุ๋ย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ไม่ยอมปิดบังเรื่องให้เงียบเพราะเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ไม่ได้ทำผิด หากปล่อยเรื่องเงียบกลัวว่าลูกศิษย์เนรคุณจะย่ามใจ อีกทั้งลูกสาวจะไม่ปลอดภัย และเพื่อเป็นตัวอย่างของสังคม และรู้สึกเสียใจมากที่มีลูกศิษย์แบบนี้ จากนั้น เจ้าหน้าที่นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.